คณะเดินทางแห่งแสงสว่าง
ผู้เข้าชมรวม
119
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
ในโลกที่เต็มไปด้ยเวทย์มนต์และสิ่งที่ยากจะเชื่อปะปนไปกับมนุษย์
คณะเดินทางที่นำด้วยชายผู้ถูกมองว่าเป็นผู้นำ
ออกเดินทางตามหาสิ่งมหัศจรรย์ที่ถูกเล่าขานในหมู่นักเวทย์ว่าคือของโบราณที่อันตราย
อาร์ติแฟค ไอเทมที่แม้แต่บิดาแห่งภูติก็หาคำตอบเกี่ยวกับการมาของมันไม่ได้
.
.
.
แต่นี่คือเรื่องราวหนึ่งที่ถูกเล่าจากหนังสือเก่าๆในห้องสมุดของอาณาจักรแดนเหนือ
ณ ตะวันออก
คณะเดินทางกลุ่มใหญ่เดินทางออกจากเมืองแห่งแสงที่ไว้กักเก็บของวิเศษต่างๆเพื่อออกตามหาและเก็บกู้ของอันตรายให้อยู่ห่างจากมือคนชั่ว . . . แต่บางครั้ง . . .
“ แต่บางครั้งอาร์ติแฟคจะเลือกเจ้าของด้วยพลังของมันเอง คิดว่าสิ่งของพวกนี้มีชีวิตจิตใจเป็นของตัวเองบ้างไหม..แต่แปลกนะฉันว่า เพราะงั้นถ้ามันเลือกคนชั่วขึ้นมาก็แปลว่าประวัติศาสตร์โลกก็อาจเปลี่ยนไปก็ได้เลยนี่ ”
เสียงสาวคนนึงกล่าวถามขึ้นกับผู้นำของนาง นางพลางเดินตามอย่างใกล้ชิดให้ปอยผมสีทองถูกลมพัดไปตามแรง
“ เธอจะบอกว่าอาณาจักรแห่งแสงของพวกเราแท้จริงเกิดขึ้นมาจากคนชั่วงั้นเรอะ
น่าสนใจดีนะ แล้วถ้าเธอได้มาเธอคิดว่าตัวเธอเองเป็นคนดีหรือคนเลวกันล่ะ ”
เสียงของผู้นำตอบกลับคำถามเขลาแบบนั้นไปด้วยรอยยิ้มเพราะตัวเขารู้ดีว่าของพวกนี้มักเลือกเจ้านายที่เป็นคนดีอยู่แล้ว เขาคือผู้นำของคณะเดินทางเป็นชายที่มีผมสีขาว-เทายาวแต่ถูกมัดรวบไว้อย่างเรียบร้อย
“ . . . ”
หญิงสาวอีกคนที่เดินตามผู้นำคณะเดินทางนิ่งเงียบด้านวาจาแต่กายก็ยังก้าวเท้าเดินตามไปอย่างเชื่อฟัง ร่างกายของนางใหญ่กว่าคนปกติเล็กน้อยแถมยังส่วมหน้ากากอยู่ตลอดเวลาบางครั้งก็มีควันออกมาจากหน้ากากซึ่งคนในคณะเชื่อกันว่านางคือสาวผู้ถูกสาปแต่แท้จริงคือมังกรเพลิงในคาบคนที่แฝงตัวอยู่ในคณะเดินทาง และยังได้เป็นมือขวาของผู้นำอีกด้วย
พวกเขาเดินทางมาจากตะวันตกจนตอนนี้ถึงตะวันออกบนภูเขาสูงที่แม้แต่เมฆก็มิอาจขึ้นไปเหนือภูเขาเหล่านี้ได้
หญิงสาวผมทองกล่าวยินดีต้อนรับสู่ดินแดนแห่งการขอพร น้ำตกสวรรค์! เชื่อกันว่าหากขอพรแล้วมีแรงกล้้าพอมันจะสามารถประทานพรข้อนั้นมาให้ได้ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสามกะจะมาขอพรให้ตามหาอาร์ติแฟคเจอได้อย่างราบรื่น ทั้งสามประกบมือเข้าหากันเพื่อพนมมือยืนเรียงแถวหน้ากระดานดังพี่น้องรอยยิ้มของชายหนุ่มและหญิงสาวเผยออกมากับหนึ่งใบหน้าใต้หน้ากากที่กล่าวขอพรผ่านทางจิตใจ
“ พรของข้าคือ ! ! ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากเสียงกล่าวภาพถูกตัดมายังอนาคตอันใกล้ใต้เสียงฝนที่โหมกระหน่ำ มีเพียงหนึ่งหน้ากากและหญิงสาวที่ยืนก้มหน้าให้กับน้ำตกแห่งสวรรค์ สาวผมทองกำหมัดของตัวเองไว้แน่นส่วนในมือของสาวหน้ากากนั้นถืออาร์ติแฟคแห่งนิรันดร์ไว้ บรรยากาศนั้นต่างจากตอนแรกที่ทั้งสองได้มาอย่างมากและสิ่งสำคัญที่สุดอย่างผู้นำก็หายไปจากการเดินทางอีกด้วย
“ หัวหน้า.. พวกเรา.. ควรหยุดพักและกลับไปแจ้งเรื่องก่อน ,ตอนนี้กำลังของพวกเราเสียไปเยอะมากแถมยังขาดอาหารและน้ำอีกถ้าพวกเราเดินทางต่อมีหวังอาจไปไม่ถึงเป็นแน่ ”
เสียงของหนึ่งในผู้เดินทางกล่าวขึ้นกับ หัวหน้า ซึ่งตอนนี้เป็นสาวผมทองที่แม้แต่ดวงตาก็แสดงออกถึงความว่างเปล่าราวกับตนเองได้ทำอะไรพลาดไปหรือป่าว..
“ . . . หือ ”
นางหันไปมองคณะเดินทางที่เหลือจำนวนคนไม่ถึงสิบด้วยซ้ำ บางคนเสียอวัยวะส่วนสำคัญไปแล้ว บางคนก็ถูกคำสาปจากดันเจี้ยนทำให้ใกล้จะตายลงทุกทีในขณะที่นางเริ่มหมดหวัง มือทั้งสองยกขึ้นมากุมหัวของตัวเองไว้แน่นแววตาสั่นระรัวเหมือนความคิดข้างในจะระเบิดออกมา
ในราตรีเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
.
.
.
.
“ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว ”
หัวหน้าคณะเดินทางส่วมสร้อยเปลือกหอยที่เขาเป็นคนทำขึ้นให้กับสาวผมทอง เขายิ้มอ่อนพลางสัมผัสกับปลายผมอันงดงามแล้วนึกถึงเรื่องราวที่เคยเดินผ่านมาด้วยกัน
“ นี่คืออาร์ติแฟคหรอ? ,เอ๊ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณแล้วกัน ”
ทั้งสองซ่อนความรู้สึกที่มีต่อกันอย่างหน้าตาเฉย หญิงสาวเข้าใจว่าทางนั้นมองตนเป็นเพียงน้อยสาวส่วนการที่บอกความในใจไปก็อาจทำให้เขาต้องห่างจากสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ขอเพียงแค่ได้อยู่ด้วยกันหรือเดินตามไปแบบนี้ก็มีค่ามากแล้วสำหรับนาง
“ นี่.. ”
“ หื้ม ”
“ ถ้าฉันเลิกออกเดินทางแล้ว.. ถึงตอนนั้นมาอยู่บ้านฉันไหม ”
“ …. ”
“ สำหรับฉันไม่มีอะไรยากเลยในชีวิต มีแค่การจากลาที่เป็นเรื่องที่ยากสุดๆแล้วรู้ไหม.. ว่ามันยากมากที่ต้องรักษาใครไว้สักคนอย่างเงียบงันโดยไม่ให้เขารู้ตัวว่ากำลังถูกปกป้องอยู่ ”
หญิงสาวให้คำตอบกับหัวหน้าคณะเดินทางไปแล้ว ในคืนนั้นทั้งสองนั่งดื่มเหล้ากันอย่างมีความสุข
หญิงสาวเมามายเหล่มองแววตาของชายหนุ่มอย่างหลงไหลพลางคิดว่าทำไมตนเองถึงหงุดหงิดได้ขนาดนี้ฅ
ทั้งที่ก็อยู่ด้วยกันมาตลดอแท้ๆ แต่ภายในใจกับรู้สึกริษยาทุกครั้งที่มีหญิงอื่นมากใกล้ รู้สึกหลงไหลและอยากครอบครอง
แต่ว่าความสุขก็อยู่ได้ไม่เคยนานสำหรับนางเลย.. ในคืนนั้นมีบางอย่างเกิดขึ้น
“ กำลังรบทุกคนเข้าประจำที่!! อย่าให้ผู้ใช้เวทย์ออกมาแนวหน้าเด็ดขาด!! ”
เสียงของหญิงสาวสั่งกองกำลังให้เข้ารวมกลุ่มเพื่อปะทะกับอะไรบางอย่างในยามราตรี
มอนเตอร์แปลกหน้าบุกเข้าโจมตีแคมป์สำรวจในยามดึกและเป็นมอนเตอร์ที่พวกเขาไม่เคยพบหรือเคยเจออีกด้วย ในความวุ่นวายนางมองกวาดหาหัวหน้าที่หายไป ในใจเต็มไปด้วยความกลัวหากว่าต้องจากกันเร็วกว่าที่คิด? หากว่านางยังไม่ได้พูดความในใจทั้งที่พูดออกมาได้ตลอดแท้ๆ จะหายไปตอนนี้กันจริงๆหรอ
ภายในความวุ่นวายในที่สุดนางก็เห็นร่างของชายหนุ่มที่กำลังนอนหมดสภาพ นางไม่รอช้าแกว่งดาบสองคมบุกลุยเข้าไปในดงมอนเตอร์อย่างห้าวหาญแต่ในจังหวะที่ใกล้จะถึงตัวแล้วแท้ๆหญิงสาวปริศนาก็ปรากฏตัวออกมาจากประตูมิติ
ความงดงามที่ไร้ข้อกังขา ความน่าหลงไหลเมื่อแรกได้พบเจอ
ความน่าเกรงข้ามเพื่อสบตา ความหวั่นเกรงที่ก่อในใจ
หญิงสาวตัวเล็กกับหมวกทรงสูงเดินมาย่อตัวลงข้างๆกับหัวหน้าแล้วลูบใบหน้านั้นด้วยความอ่อนโยนก่อนจะก้มลงไปจุมพิษแก้มกับชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
“ . . . ”
แต่คนที่เห็นการกระทำนั้นไม่รู้สึกดีด้วย หญิงสาวผมทองพุ่งตัวเข้าไปด้วยความโกรธหรือแรงผลักดันจากอะไรบางอย่างในจิตใจ? นางลงแรงดาบในมือฟาดไปยังเด็กสาวแต่ก็เหมือนมีม่านพลังที่กระเพื่อมดั่งสายน้ำมาบังไว้ แม้จะไม่เห็นใบหน้าของนางแต่แรงอาฆาตที่ส่งออกมามันมากจนให้หญิงสาวอีกคนที่ส่วมหน้ากากสัมผัสได้
“ อย่าได้เศร้าไปเลย.. อนาคต.. จะตอบรับเธออย่างแน่นอน ”
เสียงหวานกล่าวให้กับหัวหน้าคณะเดินทางได้ยินจนตื่นขึ้นอย่างช้าๆ
“ นี่มัน.. , — นี่ฉันอยู่ไหน อั่ก!!! อ้า!!!!! ”
ไม่ทันจะได้สติมือของเด็กสาวก็สอดเข้ามาผ่านหน้าอกเขาอย่างกับล่วงเข้าไปในสายน้ำแต่ความเจ็บปวดนั้นคือของจริงจนยากจะบรรยาย เขาร้องด้วยความทรมานขั้นสุดดั่งกับฆ่าให้ตายซะยังดีกว่า
“ หัวหน้า! หัวหน้า! ไม่เอา หัวหน้า! —อย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะขอร้องล่ะ ”
“ … ฮึ่ม! ” มังกรสาวปลดปล่อยพลังส่วนหนึ่งจนปรากฏหางออกมาแต่พลังความร้อนนั้นก็มากพอที่จะคอยๆละลายม่านพลังนั้นได้
หัวหน้าคณะเดินทางพยายามเอื้อมมือผ่านรอยม่านที่ค่อยๆพังทลายไปหาหญิงสาว
หญิงสาวเองก็พยายามเอื้อมมือไปหาหัวหน้าคณะเดินทางด้วยใบหน้าที่อาบน้ำตา
แต่ไม่ทันไรร่างกายของหัวหน้าคณะเดินทางก็สลายเป็นอณูราวกับกระจกที่แตกสลายไปต่อหน้าต่อตา
มีเหลือเพียงแสงบางอย่างที่หลุดออกมาจากร่างกายเขาและเด็กสาวที่เป็นคนฆ่าก็กุมมันไว้ในมืออันอ่อนโยน
เศษอณูกระจายไปทั่วบริเวณทำให้มอนเตอร์หยุดบ้าคลั่งและค่อยๆสลายหายไปทีละตัวสองตัว..
.
.
.
“ ไม่นะ.. ”
มือบางพยายามกวาดเศษละอองให้มารวมกันตรงนาง..
ทั้งที่แรงก็เหลือเพียงน้อยนิดแต่ก็ยังเอื้อมไป..
“ อย่าไปเลยนะ.. ”
น้ำตาหยดลงกระทบพื้นดินที่เปื้อนเลือดจากการต่อสู้ทีละนิด..
ความรู้สึกดั่งกับตรงกลางหัวใจนั้นเป็นรูว่างเปล่าที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้..
เหตุการณ์ทุกอย่างค่อยๆเงียบลงมีเพียงนางที่คว้าเหล่าละอองนั้นมากอดไว้
“ ไม่เอาสิ ไม่เอา.. ”
“ อยู่กับผมก่อนสิ.. อยู่กับหนูก่อนนะ.. ”
กอดมันไว้ . .
กอดมันอย่างที่ตนไม่เคยได้ . .
กอดมันอย่างที่เขามอบให้ทั้งที่ตนเองไม่ควรจะได้ . .
สุดท้ายคว้าไว้ได้เพียงละอองเล็กๆที่กำลังจะสลายหายไป
ทุกอย่างที่เขาวาดฝันไว้ถึงจะไม่รู้สึกตามด้วยแต่ดันนึกเสียดายเอาตอนนี้
.
.
.
ทั้งความยินดี ความโศกเศร้า ความสุข ความโกรธแค้น ตัวเขาคนนั้นได้ทิ้งมันไปหมดแล้ว
มีเพียงฉันที่หยิบมันขึ้นมาและลงมือต่อจากเขาเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง..
ภายใต้เสียงจันทร์ที่ส่องสว่าง ทุกคนกำลังตะลึงกับสิ่งที่เห็นว่าหัวหน้าที่พวกเขาพึงพาได้มากที่สุดพึ่งจะตายไปอย่างทรมาน สาวผมทองที่ซมร้องไห้อยู่บนพื้น น้ำตาที่ไหลผ่านหน้ากากของมังกรสาว และการเสียขวัญครั้งใหญ่ของคณะสำรวจนั้น . . นั้นคือเหตุผลที่นางกลับมา กลับมาที่น้ำตกแห่งสวรรค์เพื่อขอพรบางอย่างให้กับตัวเองอีกครั้ง..
ในยามราตรีเงียบงันมีเพียงแค่แสงจากดาว
ส่องสะท้อนพร่างพราวช่างดูงดงามทว่าปวดร้าวใจ
เอื้อมมือไปกอดเธอด้วยร่างที่สั่นไหว บอกลาดวงดาวนั้น เก็บภาพเธอไว้ข้างในดวงใจ
moon
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ML_ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ML_
ความคิดเห็น